เมนู
หมวดหมู่

กาแฟถ้ำสิงห์ กาแฟยอดฮิต โรบัสต้าเกรดพรีเมียม ของฝากจังหวัดชุมพร

กาแฟถ้ำสิงห์ สายชอบทานเครื่องดื่มเข้ม ๆ ต้องหลงรักสิ่งนี้ ทางเรา foodpaying ขอแนะนำกาแฟถ้ำสิงห์จากชุมพร กาแฟพันธุ์โรบัสต้าคั่วบด ที่มีรสชาติเข้มและกลิ่นหอมที่ลงตัว เหมือนได้ลิ้มรสชาติกาแฟสดจากไร่เข้มอย่างสิงห์ ดื่มกาแฟถ้ำสิงห์แล้วป่ะ กาแฟรสเข้ม กลมกล่อม ใครได้ลิ้มลองระวังจะติดใจไม่รู้ตัว

กาแฟถ้ำสิงห์

กาแฟถ้ำสิงห์ ความเป็นมา

ทางวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ สถานที่ตั้ง 18 หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพรก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ 2551 โดยคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านถ้ำสิงห์ มี นายนิคม ศิลปศร เป็นประธานกลุ่ม ได้ประชุมปรึกษาหารือกันว่าจะหาวิธีแนวทางใดที่จะสนับสนุนกลุ่มอาชีพให้มีความเข้มแข็ง มีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะนำเงินมาชำระหนี้ให้กับกลุ่มหรือสถาบันการเงินอื่นที่สมาชิกเป็นหนี้อยู่

จึงได้ข้อสรุปว่าจะแปรรูปผลผลิตกาแฟ ซึ่งเป็นพืชที่เคยสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและเกษตรกรตำบลถ้ำสิงห์เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ดินตำบลถ้ำสิงห์มีความเหมาะสมต่อการปลูกกาแฟ ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ฯจึงได้ทำสัญญากู้เงินกับธนาคารออมสินสาขาปฐมพร จำนวน 1,000,000 บาท มาให้สมาชิกออมทรัพย์ฯที่ผ่านการคัดเลือกเป็นสมาชิกนำร่องจำนวน 19 คน กู้เพื่อการลงทุนธุรกิจกาแฟ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ได้คัดเลือกคณะกรรมการสำหรับบริหารกลุ่มกาแฟขึ้นมาใหม่จำนวน 20 คน เพื่อจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ภายใต้ชื่อว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านถ้ำสิงห์

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 คณะกรรมการกลุ่มได้ทำสัญญากับบริษัทคอฟฟี่ฟาร์มให้ผลิตกาแฟปรุงสำเร็จ ภายใต้ชื่อว่า 4 in 1 ผสมดอกคำฝอย วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 จำนวน 200 ลัง วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 คณะกรรมการกลุ่มได้ประชุมวางแผนการดำเนินงานของกลุ่มเพื่อก่อสร้างที่ทำการกลุ่มและซื้อเครื่องคั่ว บด กาแฟ โดยใช้วัตถุดิบกาแฟของสมาชิกและเกษตรกรในท้องถิ่นมาแปรรูป ภายใต้ชื่อว่ากาแฟคั่ว บด ตราถ้ำสิงห์

และในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ เพื่อให้ชื่อกลุ่มได้สอดคล้องกับกิจกรรมที่คำคือ แปรรูปผลผลิตกาแฟ และได้ทำพิธีเปิดกลุ่มอย่างเป็นทางการวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

เมื่อกลุ่มพัฒนาถึงจุดที่ผลิต แปรรูป และจำหน่ายที่แน่นอน จึงได้มีการรณรงค์ให้สมาชิกและเกษตรกรทั่วไปปลูกกาแฟเพิ่มขึ้น มีการอบรมให้ความรู้ตามระบบของ GAP ของสำนักงานเกษตร และกรมวิชาการเกษตร ทำให้ปัจจุบันมีเกษตรมาสมัครเป็นสมาชิกกลุ่มเพิ่มขึ้นจำนวน 150 คน พื้นที่ปลูกกาแฟจำนวน 1,500 ไร่ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

กาแฟถ้ำสิงห์

ต้นกำเนิดกาแฟถ้ำสิงห์

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟถ้ำสิงห์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 โดยคณะกรรมการ กลุ่มออมทรัพย์เพื่อผลิตบ้านถ้ำสิงห์ มีนายนิคม ศิลปศร เป็นประธานกลุ่ม ได้ประชุมปรึกษาหารือกันว่าจะหาวิธีแนวทางใดที่จะสนับสนุนกลุ่มอาชีพให้มีความเข้มแข็ง มีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อที่จะนำเงินมาชำระหนี้ให้กับกลุ่มหรือสถาบันการเงินอื่นที่สมาชิกเป็นหนี้อยู่ จึงได้้ข้อสรุปว่าจะแปรรูปผลผลิตกาแฟ

ซึ่งเป็นพืชที่เคยสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและเกษตรกรตำบลถ้ำสิงห์เมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ดินตำบลถ้ำสิงห์มีความเหมาะสมต่อการปลูกาแฟ ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค

ต่อมาเมื่อมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นจึงได้รวมกลุ่มกันไปขายให้กับบริษัทผงไทยหรือเนสเล่ห์ในปัจจุบัน ที่กรุงเทพมหานคร สร้างความร่ำรวยให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมากจนเป็นที่รู้จักของพ่อค้า แม่ค้าในตลาดชุมพรว่าคนถ้ำสิงห์ซื้อของง่าย ใช้เงินคล่อง

ปี พ.ศ 2522 ราคากาแฟขึ้นสูงสุดถึง 120 บาท/กิโลกรัมเป็นประวัติการณ์ เกษตรกรมีเงินเก็บและฝากไว้กับธนาคารเป็นจำนวนมากและเริ่มมองหาพื้นที่ปลูกกาแฟเพิ่มจึงได้ไปจับจอง ซื้อที่ดิน ที่ปากจั่น อำเภอกระบุรี ที่เขาค่าย เขาทะลุ ที่รับร่อ สลุย อำเภอท่าแซะ ทำให้พื้นที่ปลูกกาแฟขยายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจังหวัดชุมพร

ปี พ.ศ 2530 ราคากาแฟเริ่มตกต่ำ ผลผลิตต่อไร่เริ่มลดลงราคาไม่จูงใจต่อการมีอาชีพปลูกกาแฟ เกษตรกรเริ่มมีปัญหาเรื่องราคาผลิตแล้วไม่คุ้มทุน เริ่มมีการประท้วงให้รัฐบาลเข้ามาประกันราคาขั้นต่ำ

ปี พ.ศ 2530 รัฐบาลสมัยนั้นจึงเริ่มโครงการลดพื้นที่ปลูกกาแฟเพื่อมิให้กาแฟล้นตลาดโดยให้เงินสนับสนุนไร่ละ 6,800 บาท เกษตรกรจึงเข้าร่วมโครงการลดพื้นที่ปลูกกาแฟ ทำให้กาแฟถ้ำสิงห์ลดลงเหลือประมาณ 10 %ของพื้นที่ปลูกกาแฟทั้งหมด

กาแฟถ้ำสิงห์

เปลี่ยนจุดล้มเหลวให้เป็นโอกาส

เมื่อตัดต้นกาแฟหมดจึงเหลือเพียง ทุเรียน มังคุด กล้วยหอม เกษตรกรจึงเริ่มมาทำทุเรียนนอกฤดู ผลผลิตที่ได้จึงมีราคาสูง สร้างความร่ำรวยให้กับเกษตรกรอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อมีการทำทุเรียนนอกฤดูเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุมสุดท้ายก็ทำให้ราคาผลผลิตทุเรียนนอกฤดูใกล้เคียงกับราคาทุเรียนในฤดูกาล ทำให้เกษตรกรผลิตแล้วไม่คุ้มทุน ประกอบกับเมื่อมีการปลูกพืชเชิงเดี่ยวกันมากทำให้โรคแมลงระบาดอย่างรวดเร็ว

ทุเรียนล้มตายเป็นจำนวนมาก เงินทองที่เก็บไว้เริ่มหมดจึงได้ไปกู้เงินจากสถาบันการเงินของรัฐ และเอกชนรวมทั้งเงินกู้นอกระบบเพื่อที่จะเอามาลงทุนในสวนทุเรียนนอกฤดูแต่ก็ล้มเหลว

เนื่องจากพืชมีความต้านทานต่อสารเคมี ผลผลิตจึงไม่ออกตามที่ต้องการ จำเป็นต้องใช้สารเคมีอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้น ทำให้เพิ่มต้นทุนการผลิตเมื่อได้ระยะเวลาเก็บเกี่ยวก็มาประสบกับปัญหาราคาต่ำเงินที่ได้มามีไม่เพียงพอต่อการนำไปชำระหนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องมีการค้างชำระหนี้ เรื่อยมา

จากอดีตที่เคยเฟื่องฟูกับอับเฉาในวันนี้ อันเนื่องมาจากเกษตรกรนิยมปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งให้ผลผลิตครั้งเดียวในรอบปีผิดกับเมื่อก่อนปลูกพืชผสมผสานคือมีกาแฟเป็นพืชหลัก ทุเรียน มังคุด กล้วยหอมเป็นพืชรอง จึงทำให้มีรายได้ตลอดปี ความเป็นอยู่ของเกษตรกรจึงไม่เดือดร้อน พึ่งพาตนเองได้อย่างสบาย กาแฟถ้ำสิงห์จึงถือกำเนิดขึ้นจากเหตุปัจจัยดังกล่าว.

กาแฟถ้ำสิงห์ ดีอย่างไร

ซึ่งกาแฟถ้ำสิงห์ กาแฟสร้างชื่อ ได้รับการยอมรับทั้งในจังหวัดและในประเทศ โด่ดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับกาแฟปรุงสำเร็จรูป 4 in 1 ผสมดอกคำฝอย มาตรฐาน 5 ดาว ปี 2553 และล่าสุดติดอับ Top 10 ระดับประเทศ เมื่อเดือนธันวาคม 2558 กับกาแฟดริฟ กาแฟคั่วบดใส่ถุงเยื่อกระดาษแล้วใส่น้ำร้อนกาแฟก็จะซึมออกมาพร้อมดื่มเป็นกาแฟสดแนวอเมริกาโน่ ถ้าอยากดื่มกาแฟอร่อย ต้องกาแฟถ้ำสิงห์ ผลิตภัณฑ์สร้างชื่อของคนถ้ำสิงห์ มีให้เลือกหลากหลายทั้งกาแฟคั่วบด สำเร็จรูปรสชาติอร่อยเข้มอย่างสิงห์

กาแฟถ้ำสิงห์เป็นที่แรกในภาคใต้ที่ผลิตกาแฟโรบัสต้าคุณภาพไม่มีรสเปรี้ยวเริ่มตั้งแต่การคัดเมล็ดพันธุ์นำมาเพาะต้นกล้าเป็นโรบัสต้าพันธุ์พื้นเมืองปลูกในพื้นที่ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร

คนในพื้นที่จะรู้จักกันในนามถ้ำสิงห์ ดินแดง ซึ่งเป็นดินแดนภูเขาไฟที่เหมาะกับการปลูกกาแฟโรบัสต้าและปลูกผลไม้ให้ผลผลิตดีที่สุดเนื่องจากทางสภาพอากาศและดินมีความอุดมสมบูรณ์กาแฟถ้ำสิงห์จะเน้นกระบวนการที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน เริ่มจากการเก็บเมล็ดสุกสีแดงนำไปลอยน้ำเพื่อแยกเมล็ดเสียออกเข้าเครื่องสีเปลือกนอกออก

ล้างทำความสะอาดเมล็ดกาแฟจากนั้นก็นำไปตากบนตะแกรงในโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ กาแฟจะไม่โดนฝนและไม่เกิดการหมักที่เป็นบ่อเกิดของเชื้อราตรวจสอบวัดความชื้นไม่เกิน 80% เก็บในกระสอบป่าน

และนำไปบ่มไว้ในโกดังที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี นำมาสีเปลือกกะลาเพื่อคัดแยกขนาดเมล็ดก่อนจะนำไปคั่วด้วยเครื่องคั่วระบบปิดมีการควบคุมอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม จนได้กาแฟคั่วในระดับความเข้มข้นตามมาตรฐานของกาแฟถ้ำสิงห์เมื่อนำมาชงก็จะได้กาแฟที่มีรสชาติ เข้ม หอม ตามแบบกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า

เครื่องดื่มเข้ม ที่ไม่ควรพลาด

เครื่องดื่มเข้มอย่างสิงห์ ดื่มกาแฟถ้ำสิงห์ สโลแกนของกาแฟยอดฮิตจากชุมพร จังหวัดชุมพรเป็นจังหวัดที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ และเป็นแหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าชั้นดีแห่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นใครสายกาแฟอย่างพลาดของฝากตัวนี้ มีทั้งแบบ 3 in 1 ที่เป็นซอง

แบบ 4 in 1 ที่ผสมดอกคำฝอย รสชาติของกาแฟชุมพรที่เป็นเอกลักษณ์คือเข้ม ๆ ไม่เปรี้ยว รสชาติกลมกล่อมลงตัว ใครอยากลองชิมก็แวะเข้าคาเฟ่หรือร้านกาแฟริมทางเพื่อตัดสินใจซื้อก่อนก็ได้ค่ะ แต่ของนอกเลยว่ากาแฟถ้ำสิงห์เขาเด็ดจริง ได้สักแก้วนี่ตาสว่าง