ผ้าทอตีนจก สุโขทัย มรดกโลกล้ำเลิศ กำเนิดลายสือไทย ของฝากจังหวัดสุโขทัย
ผ้าทอตีนจก ในความเป็นไทยที่งดงามนี้ ไม่ควรที่จะหายจากโลกไปดังนั้น จึงถูกเผยแพร่ออกมาให้เราได้รู้ถึงความเป็นไทยผ่านผ้าทอที่งดงาม ทางเรา foodpaying ขอนำเสนอผ้าทอตีนจก จากสุโขทัย ความงามของลวดลายผ้าตีนจก ได้บอกเล่าถึงฝีมืออันประณีตของช่างทอผ้าผู้รักษาวิธีการทอมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษตกทอดมาสู่รุ่นหลาน ๆ ในปัจจุบันนั้นเอง

ผ้าทอตีนจก คืออะไร
ผ้าตีนจกหมายถึง ผ้าที่ทอตกแต่งลวดลายด้วยเทคนิค จก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของผ้าซิ่น ในส่วนบริเวณที่เรียกว่า เชิงซิ่น หรือ ตีนซิ่น การที่ส่วนประกอบของผ้าซิ่นส่วนตีนซิ่น เป็นการทอด้วยเทคนิคจก จึงเรียกขานผ้าที่ต่อเป็น
ซึ่งตีนซิ่นชนิดนี้ว่า ผ้าตีนจก และเรียกผืนผ้าซิ่นที่ต่อตีนซิ่นด้วยผ้าตีนจกว่า ผ้าซิ่นตีนจก กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการทอผ้าตีนจก เช่น กลุ่มไทครั่ง ลาวครั่ง กลุ่มไทยวน กลุ่มไทพวนลาวพวน กลุ่มไทลื้อ เป็นต้น ในปัจจุบันมีการทอเป็นผ้าซิ่นตีนจกทั้งผืนโดยทอต่อเนื่องกันไป ทั้งตีนจก ตัวซิ่น และหัวซิ่นอยู่ในผืนเดียวกัน

ความงามของลวดลายผ้าตีนจก
ในความงามของลวดลายผ้าตีนจก ได้บอกเล่าถึงฝีมืออันประณีตของช่างทอผ้าผู้รักษาวิธีการทอมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ได้สะท้อนให้เห็นถึงธรรมเนียมนิยมของสตรีในเมืองพระร่วง ที่โดดเด่นมากก็คือ ชาวไทพวน หาดเสี้ยว ในเมืองศรีสัชนาลัย ปัจจุบันกลายเป็นผ้าซิ่นตีนจกที่ได้รับความนิยมไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ซึ่งชาวไทยพวนบ้านหาดเสี้ยวยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมของตนไว้โดยเฉพาะวัฒนธรรมการทอผ้าและการตีเหล็ก สมัยก่อนผู้ชายตีเหล็ก ตีมีดได้นั้นแสดงถึงความเป็นผู้นำ มีความพร้อมในการที่จะออกเรือน เป็นที่หมายตาของบรรดาสาว ๆ ส่วนหญิงสาวก็ต้องทอผ้า
ในการทอและใส่ผ้าซิ่นสวยนั่นก็เป็นการแสดงความพร้อมที่จะออกเรือนด้วยเช่นกัน การทอผ้าในบริเวณหาดเสี้ยวเป็นประเพณีที่มีการถ่ายทอดสืบต่อกันตลอดมาในหมู่ผู้หญิง เพราะถือว่าการทอผ้าเป็นคุณสมบัติของผู้หญิงทุกคนที่จะต้องหัดทอผ้าให้เป็นก่อนอายุ ๑๖ ปี โดยเริ่มด้วยการหัดกรอด้ายแล้วเริ่มทอผ้าตีนจก
ก็ถือว่าเป็นผ้าทอที่มีกรรมวิธียุ่งยากที่สุด เมื่อทอผ้าตีนจกได้แล้วจะสามารถทอผ้าชนิดอื่นได้ไม่ยาก ดังนั้นหญิงสาวแทบทุกคนจึงมีผ้าซิ่นตีนจกประจำตัวแทบทุกคน เพราะซิ่นตีนจกเป็นผ้าสำคัญสำหรับนุ่งในพิธีต่าง ๆ

ผ้าตีนจกเป็นลายอย่างไร
ซิ่นตีนจก ซิ่นหาดเสี้ยวแต่เดิมเป็นซิ่นต่อกันสามชิ้น ซิ่นหาดเสี้ยวมี ๒ ชนิด คือ ซิ่นธรรมดาใช้ใส่อยู่กับบ้านและทำงาน และซิ่นตีนจกที่ใช้ในโอกาสพิเศษใส่งานบุญ งานเทศกาลและพิธีการสำคัญ ซิ่นธรรมดามักเป็นซิ่นพื้นลายขวางลำตัว มีเชิงเป็นแถบสีดำสำหรับสตรีที่สมรสแล้ว
และสีแดงอมส้มสำหรับสตรีที่ยังไม่สมรส ส่วนซิ่นตีนจกนั้นจะประกอบด้วยสามส่วนคือ หัวซิ่น ตัวซิ่นและตีนซิ่น ตีนจกคือเชิงซิ่นที่ใช้เทคนิคการควักหรือล้วงด้วยมือ ซึ่งอาจใช้ขนเม่นหรือไม้ช่วยก็ได้ ทำให้เกิดลวดลายบนผืนผ้าสลับสีสันสวยงาม
ลายตีนจกของหาดเสี้ยวจะมีลักษณะการทอที่ทอหงายหน้าลายขึ้นลวดลายที่ทอเป็นลายเรขาคณิตเป็นหลักผ้าทอของชาวไทพวนหาดเสี้ยวมีทั้งหมด ก็คือ ๙ ลาย คือ ลายเครือน้อย ลายเครือกลาง ลายเครือใหญ่ ลายมนสิบหก ลายสิบสองหน่วยตัด ลายน้ำอ่าง ลายท้องสอง ลายแปดขอ และลายสี่ขอ

ผ้าทอตีนจก สุโขทัย ความเป็นมาเป็นอย่าางไร
หากพูดถึงงานหัตถกรรมของสุโขทัย สิ่งที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้นผ้าทอตีนจก หรือ ผ้าซิ่นตีนจก ของชาวไทพวน ณ บ้านหาดเสี้ยว ชุมชนชาวพวนที่อพยพมาจากเมืองพวน แขวงเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในปี พ.ศ. 2387 ช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้หอบหิ้วเอาวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงวิถีชีวิตของตนเองมาด้วย ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งภาษาพูด วัฒนธรรม รวมถึงภูมิปัญญาในการทอผ้าอันงดงาม
โดยตามประเพณีแล้วผ้านุ่งของผู้หญิงไทพวนแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผ้าซิ่นในชีวิตประจำวัน เน้นสวมใส่สบาย คงทน และซิ่นในโอกาสพิเศษที่งดงาม ซึ่งแต่ละประเภทผืนผ้าจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนบนที่เรียกว่า หัวซิ่น ต้องต่อด้วยผ้าชิ้นหนึ่งเพื่อให้มีความยาวพอดีกับผู้สวมใส่ ส่วนตรงกลางเรียกว่า ตัวซิ่น บริเวณนี้จะมีพื้นที่มากที่สุด
และส่วนล่างเรียกว่า ตีนซิ่น ซึ่งมักจะมีลวดลายที่สวยงาม รวมถึงมีกรรมวิธีการทอแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการ จก หมายถึงการใช้วัสดุปลายแหลม เช่น ขนเม่น ดึงยกเส้นด้ายขึ้นมาระหว่างการทอให้เกิดเป็นลวดลาย จึงเรียกผ้านุ่งแบบนี้ว่าผ้าซิ่นตีนจก โดยผ้าซิ่นตีนจกของบ้านหาดเสี้ยวจะมีลวดลายโบราณ แต่ละลายล้วนงดงามและบอกเล่าวิถีแห่งสุโขทัยได้เป็นอย่างดี

ของฝากที่อนุรักษ์ความเป็นไทย
ใครที่กำลังตามหาของฝากไปฝากญาติผู้ใหญ่ ฝากคุณแม่ ต้องมาเอฟผ้าทอตีนจกของสุโขทัยเลยจ้า ซึ่งลวดลายของที่นี่นั้นไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะจะเป็นผ้าทอลายตีนจกนั่นเอง ซึ่งเป็นการทอผ้าของชาวสุโขทัยมาช้านาน ลวดลายก็จะสวยงามไม่เหมือนกับที่จังหวัดอื่น มีสีสันให้เลือกหลากหลาย มีราคาที่ไม่แพงมากด้วย ของฝากที่ถือได้ว่าช่วยอนุรักษ์ความเป็นไทยได้ด้วยไม่ควรพลาดเด็ดขาด