เมนู
หมวดหมู่

ขนมเปี๊ยะซอย9 เมืองตรัง ขนมหวานชื่อดัง แป้งบาง กรอบ ของฝากจังหวัดตรัง

ขนมเปี๊ยะซอย9 เวลาอยากกินขนมเปี๊ยะแล้วไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อร้านดี บางทีบางร้านที่มีแต่คนรีวิวแต่พอซื้อมาก็ผิดหวังไม่ได้อร่อยเหมือนอย่างที่รีวิว ทางเรา foodpaying ได้คัดร้านที่อร่อยสมคำร่ำลือมาฝากนั้นก็คือร้านขนมเปี๊ยะซอย9 ขนมอร่อยที่โด่งดังมาจากจังหวัดตรังมากว่า 20 ปี ร้านนี้ทีเด็ดคือสูตรขนมเปี๊ยะแป้งบาง กรอบของดีเมืองตรัง แถมมีการคิดวิธีการจัดส่งที่ปลอดภัยปราศจากเชื่อโรคอีกด้วย ความอร่อยยังคงเหมือนไปซื้อที่หน้าร้าน

ขนมเปี๊ยะซอย9

ขนมเปี๊ยะซอย9 มีดีอย่างไร

ขนมเปี๊ยะซอย 9เป็นขนมเปี๊ยะชื่อดังของจังหวัดตรังที่ถ้าใครไปแล้วไม่ได้แวะซื้อ ถือว่าไปไม่ถึง จังหวัดตรังกันเลยทีเดียว ร้านเปิดขายมากว่า 20 ปี จุดเด่นอยู่ที่ขนมเปี๊ยะแป้งบาง กรอบนอกนุ่มใน ไส้เผือกหอมอัดแน่นคัดคุณภาพจากราชบุรี ไข่เค็มเม็ดโตจากไข่เป็ดของ จังหวัดตรัง 

และมีหลากหลายไส้ให้ท่านเลือกซื้อมีทั้งขนมเปี๊ยะไส้เผือกหอมไข่เค็ม กล่องละ 120 บาท 1 กล่องจะมี 10 ลูก ตัวแป้งขนมเปี๊ยะทำจากแป้งสาลีผสมน้ำสะอาดแล้วรีดจนมีแผ่นบาง ไส่ใส้เผือกหอม ไข่เค็ม นำไปชุบไข่และงาแล้วปั้นให้เป็นก้อนกลม ๆ ไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ประมาณ 5 ถึง 10 นาที จนเปลือกสุกมีสีเหลืองทอง ตัวไส้หอมมัน และไม่หวานจนเกินไป กินคู่กับน้ำชาเข้ากันดี ปกติเราไม่ใช่คนชอบทานเผือก แต่เราว่าไส้นี้อร่อยสมเป็น signature ของร้านจริง ๆ ค่ะ

และทางร้านจะมีมุมให้นั่งชิมขนมเปี๊ยะพร้อมจิบน้ำชาด้วยค่ะ เอาจริง ๆ ไม่ต้องชิมยังงัยก็ต้องซื้อแน่ ๆ ค่ะ เวลาทานแนะนำให้ทานตอนซื้อสด ๆ ใหม่ ๆ แป้งจะยังคงความกรอบหรือให้ทานภายใน 1 ถึง 2 วัน ถ้าเก็บในตู้เย็นสามารถเก็บได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนทานนำมาอุ่นร้อนสักหน่อยจะได้คงความอร่อย

สำหรับคนกรุงเทพฯ อีกด้วยจะได้ไม่ต้องลำบากไปถึงเมืองตรัง ที่อยากลองร้านมีสาขาอยู่ที่คอนโด Thru บนถนนเพชรบุรี ท้ายซอยทองหล่อ แต่จะขายลูกละ 15 บาท กล่องละ 150 บาท ซึ่งจะเป็นสูตรเดียวกับที่ตรังเลยค่ะ เพราะตัวแป้งและไส้จะทำส่งมาจากตรัง แล้วนำมาทอดที่กรุงเทพฯ แนะนำให้โทรสั่งล่วงหน้าทั้งสาขากรุงเทพฯและตรัง เพราะออเดอร์ทางร้านแน่นมาก ๆ ค่ะ

ขนมเปี๊ยะซอย9

ขนมเปี๊ยะ เป็นขนมลักษณะอย่างไร

ขนมเปี๊ยะ หมายถึง ขนมชนิดหนึ่งทำด้วยแป้งมีไส้บรรจุอยู่ มีขนาดต่างๆ กัน ส่วนที่เป็นแป้งประกอบด้วยแป้งข้าวสาลี ไขมันหรือน้ำมันบริโภค น้ำ น้ำตาล เกลือ หรือส่วนประกอบอื่นที่เหมาะสม อาจมีไข่ผสมอยู่ด้วยก็ได้ มีไส้ต่างๆ เช่น ไส้ถั่วเขียว ไส้ถั่วแดง ไส้ถั่วดำ ไส้ฟัก ไส้เผือก ไส้งาดำ อาจมีการแต่งหน้าด้วยก็ได้ ทำให้สุกโดยการอบหรือปิ้ง ในกรณีที่เป็นขนมเปี๊ยะขนาดเล็กของจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา มีชื่อเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า เต้าซ้อ นั้นเอง

ตำนานแรกกล่าวว่ามีสามีภรรยาคู่หนึ่งแต่งงานอยู่ด้วยกันที่บ้านของฝ่ายสามี อยู่มาวันหนึ่งพ่อของสามีป่วยหนักแต่ไม่มีเงินรักษา ด้วยความกตัญญูภรรยาจึงนำตัวไปขัดดอกแลกกับการยืมเงินมารักษาอาการป่วยของพ่อสามี เมื่อพ่อสามีหายจากอาการป่วย สามีจึงหาวิธีไปไถ่ตัวภรรยา โดยทำขนมเปี๊ยะออกไปขายได้เงินเป็นกอบเป็นกำ มีเงินไปไถ่ตัวภรรยาจึงเกิดเป็นชื่อ เหล่าผั่วเปี๊ยะ

และในตำนานที่สองกล่าวว่า มีชายคนหนึ่งเดินทางออกจากบ้านไปทำงานอยู่ที่กวางโจว เมื่อครั้นจะกลับบ้านภรรยาได้ยินข่าวจึงคิดทำขนมเปี๊ยะออกมาเพื่อจะเอาใจสามี เมื่อสามีได้ทานถึงกับกล่าวว่ามันวิเศษมาก และก่อนที่จะเดินทางกลับไปทำงานจึงขอให้ภรรยาทำขึ้นมาเพื่อจะนำไปฝากเจ้านายและเพื่อน ๆ เมื่อเจ้านายและเพื่อน ๆ ได้ลิ้มรส ก็ทำให้เกิดการติดอกติดใจและเกิดการบอกต่อเป็นตำนานจนได้ชื่อว่า เตี่ยจิวเหล่าผ่อเปี๊ยะ

ขนมเปี๊ยะซอย9

ขนมที่นิยมในงานมงคล

ขนมเปี๊ยะเป็นขนมที่คนจีนนิยมใช้ในงานมงคล ทั้ง งานหมั้น งานแต่งงาน หรือ เป็นของขวัญ รวมไปถึงการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เพราะอย่างงี้ขนมเปี๊ยะ คนจีนเรียกว่า ผั่วเปี้ย แต่คนไทยเรียกว่า ขนมเปี๊ยะ เป็นขนมที่มักใช้ประกอบในเทศกาลขนมไหว้พระจันทร์ของชาวจีน ใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ การทำขนมเปี๊ยะนั้นถูกเผยแพร่โดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทยเมื่อนานมาแล้ว

แต่เดิมนั้นไส้จะมีส่วนประกอบ เป็น ถั่วและฝัก แต่เมื่อวัฒนธรรมไทยจีนเริ่มผสมผสานกลมกลืนกันจนเริ่มมีกลิ่นและมีรสชาติแบบไทยๆ ไส้จึงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ทุเรียน ไข่แดง เป็นต้น

ซึ่งความหมายของขนมเปี๊ยะในเทศกาลต่าง ๆ คือ ความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง เป็นขนมแห่งความสิริมงคลสื่อถึงความปรารถนาดีระหว่างผู้รับและผู้ให้ ทั้งยังเป็นขนมที่แสดงถึงความสามัคคีกันเพราะในเทศกาลต่าง ๆ ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวกินขนมเปี๊ยะ

เพื่อให้เกิดสิริมงคลและนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ตนเอง ครอบครัว ธุรกิจและกิจการ ชาวจีนจึงมีความเชื่อสืบทอดต่อกันมาว่าในปีหนึ่ง ๆ มักจะมีสิ่งเลวร้าย เรื่องไม่ดีไม่งาม เรื่องอัปมงคลมากระทบ หรือรบกวนการดำเนินชีวิตจนทำให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ ขึ้น เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วย เงินทองไม่คล่อง ทำอะไรก็พบแต่ความยุ่งยาก ทำให้รู้ได้ว่า ดวงชะตาชีวิต ไม่ดีนักจึงต้องมีการขวนขวายหาที่พึ่งจึงก่อให้เกิดการไหว้เจ้า

และการไหว้สิ่งศักสิทธิ์ การไหว้บรรพบุรุษและประเพณีอื่น ๆ ขึ้น บนโต๊ะเซ่นไหว้จะประกอบไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความหมายต่าง ๆ กัน ขนมเปี๊ยะจะมีอักษรมงคลสีแดงประทับอยู่กลางขนม แต่ในปัจจุบันนี้พฤติกรรมการซื้อขนมเปี๊ยะนั้นได้เปลี่ยนแปลงแล้ว ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อขนมเปี๊ยะเพียงเพื่อไหว้เจ้าเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังซื้อขนมเปี๊ยะเพื่อเป็นของฝากและเพื่อการบริโภคอีกด้วย

ขนมเปี๊ยะซอย9 เมืองตรัง สายชอบกินไม่ควรพลาด

เวลาไปเที่ยวตรังฉันก็จะมักซื้อขนมเปี๊ยะ มาเป็นของฝาก ด้วยคำการันตีที่ว่า อร่อยที่สุดในเมืองตรัง โดยเขาบอกว่า จริงๆ แล้ว ขนมเปี๊ยะ มีไส้มากมายให้เลือกซื้อ เช่น เผือกหอม ถั่วแดง มันหอม ฟักทอง ถั่วเหลือง ชาเขียว งาดำ ทุเรียน หมูย่าง เป็นต้น แต่ที่เพื่อนซื้อมาฝากเป็น ขนมเปี๊ยะ ไส้เผือกหอมไข่เค็ม สูตรต้นตำรับ ดูจากกล่องมีเครื่องหมาย OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ด้วย แสดงว่า ขนมเปี๊ยะ เป็นสินค้าที่โดดเด่นประจำตำบลทับเที่ยง จังหวัดตรังนั้นเอง

ในส่วนของกล่องบรรจุภัณฑ์มีความแน่นหนาในการเก็บรักษาขนมเปี๊ยะ การเปิดกล่องต้องใช้ความระมัดระวัง หากเปิดไม่ถูกต้องอาจจะทำให้กล่องขาดได้ ซึ่งกล่องมีการล็อคไว้ 3 จุด คือ หน้าด้าน 1 จุด และด้านข้างอีก 2 จุด หลังจากเปิดด้านหน้าแล้ว อย่างเพิ่งรีบเปิดฝากล่องออก ให้เปิดด้านข้างทั้ง 2 จุดด้วย มิฉะนั้นจะเปิดไม่ออกและอาจจะทำให้กล่องขาดได้ บนกล่องด้านบนจะมีช่อง 2 ช่องปิดด้วยพลาสติกใส

ซึ่งทำให้เราสามารถเห็นขนมเปี๊ยะที่อยู่ข้างในได้ ทำให้สะดวกในการเลือกซื้อ ที่สำคัญสิ่งที่ทางเราอยากจะบอกสำหรับการเก็บรักษาขนมเปี๊ยะนั้นมีข้อแนะนำอยู่ข้างกล่อง ดังนี้ เนื่องจากขนมของทางร้านผลิตใหม่ สดทุกวัน ทานไม่หมดภายใน 3 วัน ควรเก็บในตู้เย็นนะ เผื่อจะได้ไม่มีการเสีย และยังคงรักษารสชาติอร่อย ๆ นี้ได้นาน

ขนมที่มาจากต้นตำรับอย่างแท้จริง

ซึ่งขนมนี้เป็นอีกผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานสูตร ขนมเปี๊ยะ ต้นตำรับจากฮ่องกง และตกทอดมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน ทำให้กลายเป็นที่รู้จักของลูกค้าทั้งในจังหวัด รวมทั้งต่างจังหวัด และต่างประเทศ อย่างเช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ถ้าย้อนหลังไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เอมอร เอี่ยมศรี ได้เริ่มจากการเป็นลูกจ้างทำขนม กระทั่งเปิดร้าน และคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง จนเป็นที่ยอมรับของลูกค้าจำนวนมาก ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 ไส้ คือ ไส้เผือกหอมไข่เค็ม ไส้ทุเรียนไข่เค็ม ไส้ถั่วแดงไข่เค็ม ไส้พุทราจีนไข่เค็ม ไส้ชาเขียวไข่เค็ม ไส้เม็ดบัว และไส้งาดำ โดยขนมที่ผลิตจะมีออเดอร์มาจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น กทม อยุธยา เพชรบูรณ์ ชลบุรี หาดใหญ่ สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต

และในเวลาปัจจุบัน ตลาดขนมเปี๊ยะ ซอย 9 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีคู่แข่งมาก แต่ความนิยมในการบริโภคก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ซึ่งส่วนหนึ่งอาจมาจากรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร จึงเป็นจุดขายที่ทำให้เธอ และครอบครัวสามารถยืนหยัดอยู่ได้จนทุกวันนี้ เอาเป็นว่าที่เป็นสายชอบหินขนมเปี๊ยะนั้น ก็ห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด อร่อยถูกปากตามความต้องการเลยก็ว่าได้ อยากจะกินขนมเปี๊ยะแบบฟิน ๆ ก็ต้องร้านนี้เลย