เมนู
หมวดหมู่

ซีอิ๊วดำเค็ม ตรากวางดาวทอง ตำนานความอร่อย ของฝากสุพรรณบุรี

ซีอิ๊วดำเค็ม เครื่องปรุงรสที่ใครหลาย ๆ คน ไม่รู้จักซึ่งสามารถชูรสชาติอาหารได้อย่างดีทางเรา foodpaying ขอนำเสนอซีอิ๊วเค็มตรากวางดาวทอง สูตรเข้มข้น คุณภาพระดับพรีเมี่ยม สูตรเจ ซีอิ๊วหมักธรรมชาติ 100% เลยค่ะ ผลิตจากถั่วเหลืองพันธ์ุดีของไทย กลิ่นหอมมาก รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม สำหรับปรุงอาหารที่ต้องการสีเข้ม

ซีอิ๊วดำเค็ม

ซีอิ๊วดำเค็ม คืออะไร

ซึ่งคือเครื่องปรุงที่ได้จากการหมักถั่วเหลืองแบบเดียวกับซีอิ๊วขาว แต่ใช้ระยะเวลานานขึ้น มีรสเค็มและกลิ่นแรงกว่า ให้สีน้ำตาลดำ ใช้ในอาหารคาวที่ต้องการสีน้ำตาล แต่ไม่ต้องการรสหวาน เช่นกุ้งอบวุ้นเส้น หรือผัดซีอิ๊ว ด้วยความที่มันมีรสเค็ม หลายคนเลยเรียกให้ชัดเจนไปเลยว่าซีอิ๊วดำเค็ม บางยี่ห้ออาจกำกับด้วยภาษาอังกฤษว่า Black Soy Sauce หรือ Dark Soy Sauce 

ซีอิ๊วดำเค็ม

เครื่องปรุงรสอาหารของไทย จากสุพรรณบุรี

เครื่องปรุงรสอาหารของไทย ที่ประกอบด้วย ผงปรุงรส ซอสปรุงรส  ซีอิ๊ว น้ำปลา ผงชูรส และเครื่องแกงสำเร็จรูป ทั้งหมดที่กล่าวมา ล้วนเป็นวัตถุดิบสำคัญในการประกอบอาหารเพื่อช่วยปรุงแต่งรสชาติอาหารให้อร่อยและมีความกลมกล่อมยิ่งขึ้น ซึ่งสินค้าเครื่องปรุงรสของไทยเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์การปรุงอาหารได้เป็นอย่างดี จึงเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

โดยถือเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ ทั้งด้านการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศและเพื่อการส่งออก ซึ่งในจำนวนนี้มีเครื่องปรุงรสอาหารหลายแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ไทยแท้แต่โบราณ และยังคงยืนหยัดอยู่ในตลาดมาจนถึงทุกวันนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ ซีอิ๊วกวางดาวทอง ในตำนาน จากอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยบริษัท กวางทองเจริญ จำกัด

ปฐมบทของซีอิ๊วกวางดาวทอง เริ่มต้นเมื่อศตวรรษที่ผ่านมา โดยบรรพบุรษผู้ก่อตั้งกิจการนี้ เดินทางมาจากเมืองจีนเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน และได้ความรู้เรื่องการทำซีอิ๊วสูตรชาววังจากเพื่อนชาวจีนที่อพยพมาด้วยกัน เมื่อถึงแผ่นดินสยามจึงชวนกันทำโรงงานซีอิ๊ว และผลิตต่อเนื่องจากนั้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยมี คุณวิภา สังสรรค์ศิริ บริหารกิจการในฐานะทายาทรุ่นที่ 3 และมีคุณพร้อมพงษ์ สังสรรค์ศิริ และคุณกนกวรรณ สังสรรค์ศิริ ลูกชายและลูกสาวของคุณวิภา ซึ่งทายาทรุ่นที่ 4 เป็นกำลังสำคัญ

ซีอิ๊วกวางดาวทองถือเป็นซีอิ๊วแท้ 100% หมักแบบธรรมชาติ สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด หมัก หรือเหยาะ ทำได้สารพันเมนู ทั้งขาหมู หมูพะโล้ เป็ดย่าง เป็ดพะโล้ เป็ดปักกิ่ง ไก่ หมูคั่วเค็ม ต้มจับฉ่าย น้ำจิ้ม ข้าวผัด ผัดซีอิ๊ว ผัดกะเพรา กุยช่าย ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว ปลานึ่งซีอิ๊ว ต้มซี่โครงหมู ด้านกระบวนการผลิตยังคงวิธีการและขั้นตอนแบบดั้งเดิมโดยโรงงานกวางทองเจริญ ซึ่งเป็นโรงงานของบริษัทฯ เอง 

ซีอิ๊วดำเค็ม

เคล็ดลับจากรุ่นสู่รุ่น

ทั้งนี้ซีอิ๊วกวางดาวทอง ผลิตจากถั่วเหลืองและแป้งสาลี  ไม่ใช้กระบวนการเร่งหมัก ไร้การปรุงแต่ง จึงหมักบ่มด้วยวิธีทางธรรมชาติยาวนานกว่า 3 เดือน ถึง 1 ปี แล้วแต่สูตร โดยหมักถั่วเหลืองในโอ่งดินเผา ที่ตากแดดตั้งแต่เช้าเพื่อกักเก็บความร้อนซึ่งจะหมักบ่มถั่วเหลืองให้หอมมีระยะเวลาในการเปิดโอ่งและคนเพื่อให้ได้รับแสงแดดและอากาศที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา โดยใช้จุลินทรีย์ที่มีในธรรมชาติ ค่อย ๆ ดึงรสชาติถั่วเหลืองทีละเล็กละน้อย

จนได้ซีอิ๊วหมักที่มีความหอมพิเศษ รสชาติเข้มข้นเฉพาะตัว ให้กลิ่นหอม และอร่อย นอกจากนี้ยังไม่เจือสี ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย จึงเหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ กลุ่มผู้บริโภคอาหารเจและอาหารมังสวิรัติ รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตตามแนวทาง Microbiotics การดูแลร่างกายแบบองค์รวม รวมถึงการเลือกเครื่องปรุงจากแหล่งธรรมชาติ

ลองไล่เรียงกระบวนการผลิตแบบเจาะลึกดู แล้วจะเห็นว่ากว่าจะมาเป็นซีอิ๊วกวางดาวทองแต่ละหยดนั้นไม่ธรรมดาและซับซ้อนมาก จึงไม่แปลกใจว่าแม้จะมีราคาสูงกว่าท้องตลาดโดยเฉลี่ย แต่ด้วยคุณภาพ รสชาติ กลิ่น และสี ที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้ซีอิ๊วแบรนด์นี้อยู่คู่ครัวไทยมาเนิ่นนาน 

เริ่มจากล้างถั่วเหลืองที่มีแหล่งผลิตจากภาคเหนือ เพราะสีจะสวย ให้รสดี และมีกลิ่นหอม โดยต้องล้างน้ำเปล่าให้สะอาดประมาณ 3 น้ำ แล้วแช่น้ำไว้อีก 1 คืนเต็ม ๆ วันรุ่งขึ้น นำไปแช่น้ำร้อนต่ออีก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ถั่วเหลืองอิ่มตัวเต็มที่ หลังจากนั้นนำไปนึ่งต่ออีก 4 ชั่วโมง แล้วนำมาผึ่งให้เย็นลง โดยแผ่บนกระด้งไม้ไผ่ รอจนแห้ง

แล้วใช้หัวเชื้อเดิมที่ใช้มาจากรุ่นสู่รุ่นมาผสมเพาะเชื้อ และคลุกเคล้ากับแป้งสาลี ทิ้งไว้อีก 7 วัน ก็จะได้หัวเชื้อที่ต้องการ จากนั้นนำถั่วเหลืองที่เพาะเชื้อไว้ทั้งหมดมาลงโอ่งดินเผาเพื่อทำการหมัก ผสมน้ำเปล่าอีก 40%

แล้วบ่มต่ออีก 5 ชั่วโมง เมื่อได้ที่แล้วใส่เกลือสมุทรลงไป 35 กิโลกรัม แล้วคนส่วนผสมด้วยใช้ไม้พายเท่านั้น หมักไว้ในโอ่งดินเผาที่ตั้งอยู่กลางแจ้งอีก 3 เดือน โดยต้องเปิดฝาคนทุกเช้า ทุกเย็นให้เข้ากัน ทุกวันหยุดไม่ได้เด็ดขาด ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวย่อยโปรตีน ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นทั้งสี กลิ่น และรส จึงเกิดจากกระบวนการหมักตามธรรมชาติ

เมื่อครบ  3 เดือนแล้ว นำซีอิ๊วที่ได้มากรอง แล้วหมักต่ออีก 1 ปี จากนั้นนำมาต้มให้เดือดจัด โดยใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มความหอมและความเข้มข้นให้มากขึ้น เคี่ยวต่ออีก 5 ชั่วโมง พักให้เย็น แล้วบรรจุขวดเพื่อจัดจำหน่าย 

ซีอิ๊วดำเค็ม ตรากวางดาวทอง ดีอย่างไร

ซึ่งปัจจุบันซีอิ๊วกวางดาวทองมีสินค้า 3 สูตร ตอบโจทย์การปรุงอาหารที่แตกต่างกัน ได้แก่ ซีอิ๊วเค็ม ชั้นพิเศษ สูตรเข้มข้น คุณภาพระดับพรีเมี่ยม สำหรับปรุงอาหารที่ต้องการเพิ่มสีสัน กลิ่นหอม กลมกล่อม และซีอิ๊วเค็มชั้น 1 คุณภาพระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม ใช้ปรุงอาหารที่ต้องการสีสัน และซีอิ๊วขาว สูตร 1 คุณภาพระดับมาตรฐาน มีสีน้ำตาลแดงอ่อน ใช้แทนน้ำปลาได้ สำหรับปรุงอาหารที่ไม่ต้องการสีเข้ม 

แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ และอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ดูล้าสมัย แต่ขลัง แต่ในการทำการตลาดของซีอิ๊วกวางดาวทองก็นับว่าทันสมัยเอาการ เพราะใช้ช่องทางดิจิทัลในการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างจริงจังโดยเฉพาะแฟนเพจเฟซบุ๊ก ไลน์ออฟฟิเชียล และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท รวมถึงมาร์เก็ตเพลสอย่างชอปปี้ และลาซาด้า ภายใต้ชื่อ golddeershop

ซึ่งทำให้ตำนานเครื่องปรุงรส ของดีเมืองสุพรรณ สามารถแจกจ่ายความอร่อยได้ทั่วไทยอย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าใครอยากเลือกสินค้าของบริษัทฯ แบบจุใจ ต้องไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกิมเต๊ก ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายของฝากของบริษัทฯ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของกวางทองเจริญอีกมากมาย เช่น ไข่เค็มซีอิ๊ว กวางดาวทอง เต้าเจี้ยวตรากวางดาวทอง และซีอิ๊วหวานตราหัวเรือจำหน่ายอีกด้วย 

ซีอิ๊ว สูตรเข้มข้น คุณภาพระดับพรีเมี่ยม

ซีอิ๊วเค็มตรากวางดาวทอง สูตรเข้มข้น คุณภาพระดับพรีเมี่ยม สูตรเจ ซีอิ๊วหมักธรรมชาติ 100% เลยค่ะ ผลิตจากถั่วเหลืองพันธ์ุดีของไทย กลิ่นหอมมาก รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม สำหรับปรุงอาหารที่ต้องการสีเข้ม

เช่น ขาหมู และ หมูะพะโล้ และ เป็ดพะโล้ และ ไก่คั่วเค็ม และ หมูคั่วเค็ม, ต้มจับฉ่าย หรือจะใช้เหยาะโจ๊ก และ ข้าวต้ม และ ไข่ดาว ใช้เป็นน้ำจิ้ม หรือพริกซีอิ๊ว ก็ได้ สบายมากค่ะ ในส่วนของรสชาติ กลิ่น สี ได้มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่มีผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย หรือสารปรุงแต่ง รับรองความสะอาดและความปลอดภัย ถือเป็นของดีเมืองสุพรรณอีกตัวที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ