เมนู
หมวดหมู่

จ้อปูแม่วรรณา ของฝากจากชลบุรี

จ้อปูแม่วรรณา ทางเรามีจ้อปูที่แสนอร่อยมานำเสนอ ซึ่งก็คือจ๊อปูแม่วรรณา ที่มีแต่ปูจริง ๆ ให้เนื้อปูจุก ๆ 90 % เครื่องเทศมีแค่ 10 % เท่านั้น ซึ่งเป็นสินค้าเป็นสินค้าสดใหม่วันต่อวัน สินค้าทุกรายการ มาพร้อมคนขาย นึ่งเสร็จก็มากันเลย ตอนตี 4 มีคนบริการขายไปกลับทุกวัน ทำแบบนี้มา 45 ปีแล้ว และแถมมีบริการจัดส่งทั่วไทย ทุกพื้นที่ ด้วยรถห้องเย็น อุณหภูมิ -15 ฟรีสแข๊งสดใหม่เหมือนเดิม ถ้าหากใครที่กำลังอยากกินจ้อปูทางเรา foodpaying ขอแนะนำร้านนี้เลย

จ้อปูแม่วรรณา คืออะไร

ชื่ออาหารแบบจีนชนิดหนึ่ง ใช้เนื้อปู มันหมูแข็งต้มสุก ผสมกับแป้งมันและเครื่องปรุงรส บดหรือโขลกจนเหนียวแล้วห่อด้วยฟองเต้าหู้เป็นท่อน กลม ๆ ยาว ๆ มัดเป็นเปลาะ ๆ นึ่งแล้วทอดให้สุกกินกับน้ำจิ้ม และเนื้อปูสดใหม่ มีให้เลือกทั้ง ปูก้อน อกปู กรรเชียงจัมโบ้ ให้ปูแบบจุกๆ เจาะไปตรงไหนก็เจอเนื้อปู ยิ่งได้กินตอนทอดเสร็จใหม่ๆ ทั้งกรอบทั้งหอม รสชาติอร่อยเป็นที่ถูกอกถูกใจ นักชิมยกให้ หอยจ๊อปูแม่วรรณา หอยจ๊อเจ้าดังของ บางแสน แห่งตำบลแสนสุข เมืองชลบุรี เป็นหนึ่งในร้าน หอยจ๊อปู ในดวงใจเลย

จ้อปูแม่วรรณา ประวัติร้าน

หอยจ๊อปูแม่วรรณาตั้งชื่อร้านตามชื่อคุณ วรรณา ธนวิชัย เจ้าของสูตรเด็ดเคล็ดลับการทำหอยจ๊อปูเนื้อทะลักให้อร่อยมัดใจคนชอบหอยจ๊อ ปัจจุบัน พ.ศ.2565 แม่วรรณา อายุ 73 ปีแล้ว และร้านหอยจ๊อปูแม่วรรณา ตำนานความอร่อยกว่า 45 ปี ยิ่งเป็นร้านเก่าแก่แบบนี้มีหรอจะอดใจไหวนอกจากมีสาขาที่ชลบุรีก็ยังมีสาขาในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกันค่ะ อยู่ที่รามคำแหง 24 ตลาดเสรี สาขานี้จะใช้ชื่อร้านว่าร้านหนองมนหัวหมากนะ

ราคาแพงหรือไม่

หอยจ๊อแม่วรรณา หอยจ๊อร้านดังย่านบางแสน ได้ยินชื่อเสียงมาพักนึงแล้ว วันนี้ได้ลองไปซื้อทานดู หอยจ๊อมีหลายราคา หลายขนาด และใส่ชิ้นส่วนปูต่างกัน นอกจากนี้ทางร้านยังมี แฮ่กึ๊น และ ปูจ๋า และเนื้อปูสด ๆ ด้วยนะฉันเองได้สั่งหอยจ๊อกันเชียงปูจัมโบ้ ราคาเส้นละ 250 บาท มี 5 ลูก เป็นชนิดที่แพงสุด

ฉันเลือกสั่งอันที่แพงที่สุดไปเลย ไหน ๆ ทานแล้ว ปรากฏว่าไม่แปลกใจเลย ทำไมคนพูดถึงกันเยอะ ผิวหอยจ๊อกรอบบาง อัดแน่นด้วยกรรเชียงชิ้นใหญ่ๆ หนึบๆ เต็มปากเต็มคำ มีรสชาติอร่อยหอมพริกไทยอยู่แล้ว ทานไม่ต้องจิ้มก็อร่อย แต่ทางร้านก็มีน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยไว้ตัดเลี่ยนมาให้ ถือว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ อร่อยมาก

จ้อปูแม่วรรณา มีเมนูอะไรบ้าง

หอยจ๊อกรรเชียงปู ไม่ทอด แท่งละ 149 เลือกได้นะว่าจะทอดเลยรึเอามาทอดเอง รุ่นมาตรฐานนี้รีวิวไปหลายทีละ กลับไปอ่านเอง ทอดเองชั้นก็ทอดเก่งนะเว้ย ฝีมือหม้อทอดไร้น้ำมันล้วน ๆ แค่พ่นน้ำมันบนผิวเพิ่มอีกนิด กรอบสริทติดทนนาน ก้ามปูสดแน่นกว่าร้านอื่นในราคาเดียวกันเกือบสองเท่า อย่างเด็ด 10 เต็ม 10

หอยจ๊อกรรเชียงปูจัมโบ้ ทอดเลย แท่งละ 265 ลูกบึ้มก็ว่าแบบแรกเกือบเท่านึง เกือบเรียกว่ากรรเชียงปูห่อจ๊อได้เลย ฝีมือทอดของร้านเฉือนชนะชั้นทอดเองไปหลายคืบอยู่ 55 กรอบนอกนุ่มใน เนื้อปูขาวโอโม่แบบใช่ ๆ ทะลักทะลาย น้ำจิ้มบ๊วยรสเปรี้ยวหวานกำลังดี ไม่มีกินจ๊อปูเดี่ยว ๆ ก็แจ่มนะจ๊ะ 10 เต็ม 10

ทอดมันปลาอินทรีย์ 66 อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ของร้าน ทอดมันสไตล์เมืองชล ที่มีคุณลักษณะโดดเด่นที่ความหวาน หวานนำไม่เหมือนแหล่งอื่น หวานแบบรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เนื้อนุ่มละมุนมาก ๆ บางคนอาจติงว่าหวายเยอะ แต่ในฐานะคนเมืองชล รสแบบนี้ดีต่อใจที่สุด หาที่ไหนก็ไม่มี แถวบ้านชั้นจะทอดบาง ๆ ชิ้นเล็ก ๆ ทอดแล้วมันย่นพับไปพับมาทรงไม่แบนสวยแบบนี้ ทอดมันชลบุรีนี้กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ไม่ต้องใส่น้ำจิ้มอย่างฟินนน เก็บช่องฟรีซแล้วค่อยมาอุ่นยังเริ่ด น้ำจิ้มจะมีความซีฟู้ด ต่างจากน้ำจิ้มหวาน ๆ ร้านอื่นเช่นกัน 9.5 เต็ม 10

ห่อหมกปลาอินทรีย์ 22 ห่อไม่เล็กไม่ใหญ่ เนื้อหมกนวลเนียนปลาเนื้อสดแทรกในเนื้อหมก รสชาติหวานนำไปหน่อย แต่ยังคงความอร่อนจัดจ้านไว้อยู่ 8 เต็ม 10

ปลาหมึกกรอบสามรส 154 สดใหม่ หอมหมึก หวานกรอบกำลังดี 9 เต็ม 10

นอกจากนี้ยังมีของเด็ดเมืองชลรวมฮิตที่ร้านนำมาขายด้วย แบบว่าไม่ต้องไปตระเวนหาที่ไหน มานี่ที่เดียวจอด อาจมาบางวันก็จริง แต่ส่วนใหญ่มา เช่นข้าวหลามหนองมน กุยช่าย และ น้ำพริกศรีราชาโกศล ที่ชั้นว่าอร่อยสุดในบรรดาศรีราชาละ

แม่วรรณาพูดถึงการประสบความสำเร็จ

กว่าจะประสบความสำเร็จ ทำ หอยจ๊อปู เป็นที่ถูกใจนักชิม ทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสที่กรอบอร่อย แม่วรรณา ให้สัมภาษณ์กับ @TASTE กรุงเทพธุรกิจ ว่าต้องอาศัยความมุ่งมั่น ความอดทน ตั้งแต่การเก็บสะสมเงินทุน และการลองผิดลองถูกในการปรุงรสหอยจ๊อให้ถึงเครื่องถึงรสอย่างพอดี

แม่วรรณา เล่าว่า ก่อนทำหอยจ๊อ เดิมบ้านสามีซึ่งเป็นคนจีนมีอาชีพเพาะถั่วงอกไปนั่งขายใน ตลาดหนองมน โดยเช่าห้องแถวเก่าๆ เดือนละ 200 บาท ละแวกต้นโพธิ์ ศาลเจ้าหลังตลาดหนองมน เป็นที่อยู่อาศัยได้เพาะถั่วงอกขาย ฟังดูเป็นงานง่ายๆ แต่กลับดึงเวลาของทุกคนในบ้านให้ต้องคอยรดน้ำทุก 3 ชั่วโมง แต่ขายแล้วได้กำไรไม่กี่ร้อยบาท “แม่วรรณา” จึงเริ่มเปลี่ยนวิธีการ ด้วยการไปรับถั่วงอกในตัวเมืองชล มานั่งขายคู่กับเลือดหมูและเต้าหู้ พอมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง

และในวันหนึ่ง ขณะนั่งขายถั่วงอกในตลาด เห็นมีคนซื้อตะกร้าใบใหญ่ใส่อาหารทะเลขนไป หลังจากดูอยู่เป็นเดือน ก็รู้ว่าเขาซื้ออาหารทะเลไปขายที่กรุงเทพฯ พอบ่ายๆ ก็กลับมา เราก็ลองบ้าง หาดวอนสมัยก่อนของทะเลเยอะ เราซื้อกุ้งแห้ง หมึกแก้ว หอยแห้ง ปลากุเลา มาแพ็ค ซื้อกระจาดลูกหนึ่ง ใส่ใต้ท้องรถขนส่ง ไปนั่งขายที่ตลาดพระโขนง

ในวันแรกได้กำไร ดีใจมาก จากทุน 600 บาท ได้กำไรเท่าตัว นึกว่าเราไม่ต้องนั่งเพาะถั่วงอกเหนื่อยกันทั้งบ้านอีกแล้ว แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น กว่าจะได้ถึงวันนี้ นั่งร้องไห้ กระหืดกระหอบ เทศกิจจับ เสียใจ นึกว่าไม่ได้ไปต่อ นึกว่าจะต้องกลับมานั่งขายถั่วงอกแล้ว แม่ค้าเก่าเขาลุกหนีหมด เราไม่รู้เรื่องก็นั่งให้เขาจับ

จ้อปูแม่วรรณา ความสำเร็จไม่หยุดอยู่แค่ตลาดพระโขนง

ซึ่งแม่วรรณา เปลี่ยนจากกระจาดเป็นสาแหรก หาบของทะเลขึ้นแท็กซี่ให้ไปส่งขายตามตลาดดังๆ ของกรุงเทพฯ หลายแห่ง และที่ ตลาดเทเวศร์ เกิดเหตุที่จำได้ไม่ลืม ก็นั่ง ๆ ขายอยู่ พอเที่ยงคนนี้ลุกไปแล้ว เราก็หาบของตามเขาไป เขาเข้าไปในแบงก์แห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย โอ้โหขายดี เมื่อก่อนนุ่งผ้าถุง ต้องเอาตังค์เหน็บไว้ใต้หัวเข่า เก็บตังค์ไม่ทัน ขายดีมาก มีอะไรขายเกลี้ยง พนักงานเขาลงมาซื้อกัน

รุ่งขึ้นอีกวันแม่ขน ของทะเล ไปอีกเท่าตัว ไปถึง ยามไม่ยอมให้เข้า ทำไมล่ะ เมื่อวานฉันก็เดินเข้ามายังให้ฉันเข้าไปขายได้ เจอคนซื้อจำหน้ากันได้ มาวันนี้ยามไม่ให้นั่งขาย ทำไงล่ะ เขาบอกวันนั้นเป็นวันเงินเดือนออก เขาให้แม่ค้าเข้าไปขายได้หนึ่งวัน เราไม่รู้เรื่อง นึกว่าขายได้ทุกวัน วันนั้นบ่าไหม้เลย เดินหาบขายรอบตลาดกว่าจะหมด ก็ไม่หมดหรอก แต่ก็เบาลง

จากทุน 600 บาท แม่วรรณา ตระเวนขายอาหารทะเลในกรุงเทพฯ จนสามารถออกรถกระบะมาช่วยในการซื้อของทะเลไปขายที่กรุงเทพฯ สะดวกขึ้น แต่ก็อดหลับอดนอนเหมือนเดิม กลับจากกรุงเทพฯ เย็น ๆ ก็ต้องออกหาของไว้ขายวันรุ่งขึ้น ตีสองก็ต้องตื่นเตรียมตัวขับรถเข้ากรุงเทพฯ

และในจนวันหนึ่งขาย เนื้อปูสด ไม่หมด ไม่รู้จะทำอย่างไร จำได้ว่าเคยเห็นแม่สามีทำ หอยจ๊อ สำหรับไหว้ในเทศกาลต่างๆ จึงตั้งต้นหัดทำหอยจ๊อจากสูตรแม่สามี ส่วนใหญ่อาหารจีนมักมีรสเค็มนำ แม่วรรณา ลองแต่งรสชาติเพิ่ม ลองผิดลองถูกอยู่เป็นปี ก็พอรู้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง พลิกแพลงไปตลอด รวมทั้งชวนคนอื่นๆ มาช่วยกันลองชิม

เราทำหอยจ๊อของเราจนได้เป็นอย่างนี้ เป็นสูตรมาจนทุกวันนี้ ทำไปก็พัฒนาไป คือเราเดินหน้าอย่างเดียว ไม่มีถอยหลัง  เราก็คิดว่าหอยจ๊อต้องอร่อยจากตรงนี้ โดยเฉพาะ เนื้อปูต้องสดใหม่ ถ้าไม่สดใหม่ รสชาติจะด้อยลงไป เนื้อหมูก็ต้องไม่มีกลิ่นเลย เราชิมของคนอื่นเรายังรู้ว่ามีกลิ่นหรือไม่มีกลิ่น หอยจ๊อของเราต้องไม่เป็นแบบนั้น คิดว่าต้องทำให้ดีมาตลอดจนถึงวันนี้ แม่วรรณา กล่าวเอาไว้

หอยจ๊อปูแม่วรรณา ใส่อะไรบ้าง

ส่วนประกอบสำคัญของ หอยจ๊อปูแม่วรรณา อยู่ที่ เนื้อปู ต้องสดใหม่จริงๆ โดยใช้เนื้อปู 90% เนื้อหมูสับและเครื่องปรุงอื่นอีก 10%  ถ้าไม่ผสมหมูสับเลย เนื้อปูอย่างเดียวก็ไม่อร่อย แม่วรรณา กล่าว ในช่วงเริ่มทำ หอยจ๊อปู แม่วรรณาเล่าว่าใช้ เนื้อปู ไม่เกิน 5 กิโลกรัมต่อวัน จนชื่อเสียงเริ่มเป็นที่ร่ำลือถึงหอยจ๊อที่นอกจากรสชาติอร่อย ยังอัดแน่นไปด้วยเนื้อปู

ปัจจุบันแม่วรรณาใช้ เนื้อปู วันละ 200 ถึง 400 กิโลกรัม  แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาล เช่น ตรุษจีน สารทจีน สงกรานต์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยเฉพาะ ปีใหม่ ห้างร้านถึงบริษัทมักสั่งหอยจ๊อไปสวัสดีปีใหม่หรือแจกพนักงาน ใช้เนื้อปูมากถึงประมาณ 500 กิโลกรัมต่อวัน