เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ รสบาร์บีคิว เผ็ดเข้มข้น ร้านเมธี ของฝากภูเก็ต
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ รสบาร์บีคิว ต้นตำรับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ของภูเก็ตแท้ๆ มานานกว่า 50ปี คัดสรรเมล็ดอย่างดีเยี่ยม นำมาคลุกเคล้ากับผงบาร์บีคิวและเครื่องปรุง ให้ได้รสชาติปิ้งย่าง เผ็ดเล็กน้อยที่เป็นสูตรเฉพาะของเมธีภูเก็ต ความลงตัวในอีกหนึ่งรสชาติที่วันนี้แอดมิน foodpaying จะมานำเสนอกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ใช้กระบวนการอบ 100% แทนการทอดด้วยน้ำมัน ทำให้มีกลิ่นหอมบาร์บีคิว กรอบ อร่อย ไม่มีคอเลสเตอรอล และดีต่อสุขภาพ 🍴😋
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ รสบาร์บีคิว รายละเอียดสินค้า
เม็ดมะม่วงหิมพานต์รสบาร์บีคิว รสชาติของเม็ดมะม่วงหิมพานต์อบผสมผสานรสชาติกลมกล่อมของรสบาบีคิว ความลงตัวในอีกหนึ่งรสชาติ ที่คุณแม่จู้นำเสนอ
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์รสบาร์บีคิว คัดสรรเมล็ดมะม่วงหิมพานต์สดอย่างดีเยี่ยม ผสมผสานเครื่องปรุงรสบาร์บีคิว ผ่านกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ใช้กระบวนการอบ 100% ไม่ใช้น้ำมันทอด รักษาคุณค่าของความอร่อย ได้รสชาติดั้งเดิมมีกลิ่นหอมธรรมชาติ
อร่อยแบบอบ ไม่ใช้น้ำมันทอด ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่มีคอเลสเตอรอล ดีต่อสุขภาพ มีอายุการเก็บรักษาได้นาน 1 ปี ต้นตำรับเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ แบรนด์ที่คนภูเก็ตภาคภูมิใจมานานกว่า 50 ปี
สินค้า 1 ชุดประกอบด้วยเมล็ดมะม่วงหิมพานต์รสบาร์บีคิว 🍡
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ รสบาร์บีคิว คืออะไร ?
เชื่อว่าหลายคนคงเคยรับประทาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กันอยู่แล้ว นิยมรับประทานเป็นของว่าง และนำมาเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร เพราะมีรสชาติอร่อย สามารถทานได้อย่างเพลิดเพลิน และเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายในบทความนี้แอดมินจะแนะนำข้อดีของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้ได้รูกัน ตามไปดูเลย
ลักษณะของมะม่วงหิมพานต์นั้น อธิบายได้ดังนี้
ต้นมะม่วงหิมพานต์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงโดยเฉลี่ย 6 เมตร สามารถสูงได้ถึง 12 เมตร ลำต้นเนื้อไม้แข็ง มีกิ่งแขนงแตกออกเป็นพุ่มแน่นทรงกลมถึงกระจาย เปลือกหนาผิวเรียบมีสีน้ำตาลเทา ในบ้านเราสามารถพบมะม่วงหิมพานต์ได้ทั่วไปในภาคใต้
ใบมะม่วงหิมพานต์ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงเวียน ใบหนาเกลี้ยงเหมือนแผ่นหนัง ใบคล้ายรูปไข่กลับหัวถึงรูปรีกว้าง ปลายใบกลม โคนใบแหลม เนื้อใบมีกลิ่นหอม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 6 – 10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8 – 20 เซนติเมตร
ดอกมะม่วงหิมพานต์ ดอกออกเป็นช่อกระจาย ดอกมีสีขาว หรือสีเหลืองนวล และจะเปลี่ยนไปเป็นสีชมพู ช่อดอกแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก และมีกลีบเลี้ยงสีเขียวขนาดเล็ก โคนดอกเชื่อมติดกัน ดอกหนึ่งมีปลายแยกเป็นกลีบ 5 กลีบ ปลายแหลมเรียว ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ประมาณ 8 – 10 อัน หลังจากดอกร่วงจะติดผล
ผลมะม่วงหิมพานต์ มีลักษณะคล้ายผลชมพู่หรือลูกแพร์ ผลเป็นพวงห้อยลงมา ขนาดผลยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร เนื้อผลฉ่ำน้ำมีกลิ่นหอม ผลอ่อนมีสีเขียวหรือเหลืองอมชมพู แต่เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีส้มแดง ที่ปลายผลมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด มีลักษณะคล้ายรูปไต เปลือกนอกแข็งและยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีน้ำตาลอมเทา
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นผลมีเปลือกแข็ง มีเมล็ดเดียวลักษณะคล้ายรูปไต หรือคล้ายนวมของนักมวย มีสีน้ำตาลปนเทา ข้างในผลมีเมล็ดคล้ายรูปไต
สรรพคุณของมะม่วงหิมพานต์
แพทย์ในอินเดียนั้นใช้เมล็ดเลี้ยงเด็กทารก เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้เร็ว และแข็งแรง
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยธาตุทองแดง จึงช่วยบำรุงเส้นผม และผิวหนังได้เป็นอย่างดี
สรรพคุณเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ หลอดเลือดได้
เม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้น มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มีธาตุแมกนีเซียมในปริมาณมาก จึงช่วยบำรุงสุขภาพเหงือก สุขภาพฟัน และกระดูกให้แข็งแรง
การรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมได้
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ รสบาร์บีคิว ของฝากจากเมืองภูเก็ต
ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ดีต่อใจ ดีต่อพุง ดีต่อท้อง ช่วยควบคุมน้ำตาลและน้ำหนักได้นะค่ะ แถมยังชะลอวัยด้วย
มะม่วงหิมพานต์ คือ เม็ดถั่วแบบหนึ่ง ที่มีรสชาติ มัน หวาน กรอบ เป็นแหล่งของวิตามินต่างๆ และเกลือแร่ที่ดีนะค่ะ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เผาหรือแบบดิบที่ไม่ผสมใดๆแบบออริจินอลนั้นมักจะมีการนำมาใช้ในสูตรอาหารแบบวีแกน คีโต เพื่อสุขภาพ ทั้งนี้ไม่รวมการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผสมเกลือเป็นของกินเล่น
นอกจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์แก้วแล้ว ทางร้านคุณแม่จู้ภูเก็ต ยังจัดจำหน่ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูปต่างๆด้วยนะ มีหลากหลายรสชาติทีเดียว เช่น มะม่วงหิมพานต์อบเกลือ มะม่วงหิมพานต์รสวาซาบิ เป็นต้น
มะม่วงหิมพานต์ควรทานวันละเท่าไร
จากสถานบันอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลโภชนการของเม็ดมะม่วงหิมหานพต์เผา รับประทาน 1 ครั้ง อยู่ประมาณ 33-40 กรัม หรือประมาณ 1 ฝามือ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งพลังงานสูง ที่มีไขมันปริมาณครึ่งหนึ่ง ของส่วนประกอบอื่นๆ แต่ไม่ต้องกังวลไป ถึงแม้มีปริมาณไขมันจะมาก
แต่ก็เป็นไขมันที่ดี คือชนิดไม่อิ่มตัว ทำให้เพิ่มวิตามินอี โดยที่วิตามินอีนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ดี และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของร่างกาย ไม่ต้องเรื่องคอเลสเตอรอล จะไม่สูง และอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ อีกมากมาย
ตัวอย่างประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ระบบไหลเวียนเลือดและหัวใจลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
การมองเห็น เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีสาร lutein และ zeaxanthinช่วยป้องกันการทำลายดวงตาจากแสง
การควบคุมน้ำหนัก การรับประทานถั่ว 2 ครั้ง ต่อวันนั้น สามารถช่วยต่อสู่กับโรคหัวใจ หลอดเลือด เบาหวาน และมะเร็งได้
ต้านโรคเบาหวาน กระตุ้นให้เกิดการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น มีผลควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและป้องกันภาวะดื้อต่ออินซูลิน
ใครไม่ควรรับประทาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ?
ใครไม่ควรรับประทาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์
คำแนะนำในการรับประทาน เม็ดมะม่วงมะม่วงหิมพานต์จะมีน้ำมันมากและให้พลังงานสูง ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป หรือครั้งหนึ่งไม่เกิน 10 เม็ด (แต่ถ้าอยากรู้ว่าพลังงานเยอะแค่ไหน ลองใช้ไฟจุดดู จะเห็นไฟลุกเป็นเปลว
และยิ่งนำไปอบหรือทอดเนยก็จะมีพลังงานมากขึ้นไปอีก) ใช่ว่าถั่วลิสงจะเป็นถั่วที่มีสารอะฟลาทอกซินอย่างเดียว เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ก็อาจมีปนเปื้อนด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรเลือกบริโภคเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ที่สะอาด ปิดมิดชิด ไม่เก็บไว้นาน มีเลขทะเบียน อย. ที่ถูกต้อง
หรือผ่านการผลิตด้วยระบบ GMP/HACCP สำหรับบางรายที่รับประทานเม็ดมะม่วงพิมพานต์แล้วเกิดอาการแพ้ โดยมีอาการเช่น มีอาการบวมที่ใบหน้าและคอ มีผดผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง หายใจลำบาก คลื่นไส้อาเจียนหรือท้องเสีย คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน
หญิงตั้งครรภ์ หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร การรับประทาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ที่ความปลอดภัยแต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเพื่อหวังผลทางการรักษาโรค เนื่องจากไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่เพียงพอ
ผู้ที่แพ้ถั่ว หรือสารเพคติน (Pectin)
ผู้ที่แพ้เพคตินซึ่งเป็นสารที่อยู่ในพืช โดยเฉพาะในกลุ่มถั่วและเมล็ดพืชบางชนิด เช่น พิสตาชิโอ อัลมอนด์ ฮาเซลนัท ถั่วลิสง อาจแพ้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ได้เช่นกัน
ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด
เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
ดังนั้นผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดควรหยุดรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ทั้งนี้ถ้าไม่มั่นใจหรือผู้ที่มีประวัติอาการแพ้ดังกล่าวควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเสมอ
เราแนะนำสินค้าคุณภาพเพื่อให้ท่านได้เลือกรับชมอย่างง่ายดายอีกทั้งยังมี Application ที่สามารถเลือกช็อปสินค้าทุกประเภทของฝากทั่วประเทศไทยง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย ต้อง foodpayingshop กินแล้วได้ตังค์ซื้อแล้วได้ตังค์ ดาวน์โหลดเลยวันนี้ 😊