สังขยาไข่ kopi de phuket หอมหวาน ไม่มีความคาวแน่นอน ของฝากจังหวัดภูเก็ต
สังขยาไข่ ขนมโบราณส่วนใหญาในสมัยนี้แถมจะหาซื้อร้านที่ทำอร่อยได้ยากแล้วอย่างเช่นสังขยาไข่ หอมอร่อย ที่สามารถทำให้ท่าได้สัมผัสรสชาติเหมือนที่เคยรับประทานตอนสมัยเด็ก ๆ เลยทีเดียว อร่อย ไม่หวานจนเลี่ยน และไม่ออกไข่จนคาว สีสันน่ารับประทานอีกด้วย สังขยาไข่ที่มีรสชาตแบบนี้ทางเรา foodpaying ขอแนะนำสังขยาไข่จากทางร้านkopi de phuket อร่อยปลอดภัยแน่นอน
![สังขยาไข่](https://fooddaying.com/wp-content/uploads/2023/05/สังขยาไข่-kopi-de-phuket-1.jpg)
สังขยาไข่ เป็นอย่างไร
ซึ่งสังขยา เป็นของหวานชนิดหนึ่งของไทยทำจาก ไข่ น้ำตาล กะทิ นำมากวนให้เข้ากัน นิยมแต่งสีและกลิ่นด้วยใบเตยให้ได้สีเขียว หรือผสมกับน้ำชาเรียกสังขยาชาเย็น ใช้ทาขนมปังหรือใช้เป็นไส้ขนมปัง ซาลาเปา ในมาเลเซียและอินโดนีเซีย
ที่มีขนมลักษณะเดียวกันนี้เรียก กายา หรือศรีกายา เป็นแบบที่ทำให้ข้น ใช้ทาขนมปัง ใช้เป็นไส้ขนมได้ด้วย ส่วนผสมเป็นไข่ กะทิ น้ำตาล เคี่ยวให้เข้ากัน นิยมใส่ใบเตยให้เป็นสีเขียวอ่อนหรือใส่ไข่ให้เป็นสีส้ม กายาที่ใช้กินกับขนมปังจะต่างจากกายาที่กินกับข้าวเหนียว
ทางเราขอพูดถึงในการใช้วัตถุดิบของเมนูสังขยาไข่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าส่วนประกอบของเมนูนี้มีอะไรบ้าง วิธีทำสังขยาไข่ให้อร่อยได้นั้นต้องใช้ไข่เป็ดแบบสดใหม่ น้ำตาล ใบเตยสด และกะทิสด หรือถ้าหากว่าใครอยากเพิ่มมะพร้าวอ่อนลงไปก็สามารถใส่ลงไปด้วยได้เช่นกัน ซึ่งวัตถุดิบทุกอย่างนั้นเป็นวัตถุดิบที่พื้นบ้านมาก ๆ แถมยังหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปอีกด้วย
![สังขยาไข่](https://fooddaying.com/wp-content/uploads/2023/05/สังขยาไข่-kopi-de-phuket-2.jpg)
ขนมโบราณที่สามารถทานได้หลากหลาย
อย่างไรก็ตามเมนูนี้เป็นเมนูที่ได้รับการต่อยอดมาจากข้าวเหนียวมูนที่เหลืออยู่ เพื่อการรับประทานที่มีหลากหลายมากขึ้นเมนูขนมสังขยาไข่จึงเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้จำเจกับการทานคู่กับมะม่วงเพียงอย่างเดียว แต่การจะออกไปซื้อมาทานอยู่บ่อย ๆ เนื้อสังขยาก็ช่างให้มาน้อยนิดจนเกินพอดี เรียกได้ว่าลงมือทำเองน่าจะอิ่มอร่อยจนจุกเลยทีเดียว แต่ด้วยความรสนิยมการกินที่แปลกใหม่ สังขยาไข่ก็สามารถรับประทานได้หลากหลายอย่างเช่น ไอศรีม หรือ ทุเรียน นั้นเอง
และในการเลือกไข่เป็นเพื่อทำสังขยาไข่ต้องเลือกไข่ที่สดใหม่ออกจากฟาร์มหรือเล้ามาหมาด ๆ เพื่อให้สีของไข่เป็นนั้นยังคงดูสดและนำไปทำเนื้อสังขยาได้นวลมากยิ่งขึ้น และปลอดภัยในการรับประทานอีกด้วยส่วนน้ำตาลที่ใช้ถ้าจะให้แนะนำก็คงจะต้องใช้น้ำตาลมะพร้าวจะดีที่สุด เพราะน้ำตาลชนิดนี้จะมีกลิ่นหอมที่เฉพาะตัวมากกว่าน้ำตาลชนิดอื่น อีกหนึ่งข้อสำคัญเพื่อทำให้สังขยามีกลิ่นหอมกว่าปกติคือการใช้ใบเตยในการขยำไข่และส่วนประกอบอื่น ๆ ให้เข้ากัน
![สังขยาไข่](https://fooddaying.com/wp-content/uploads/2023/05/สังขยาไข่-kopi-de-phuket-3.jpg)
สังขยาไข่ทำด้วยตัวเองยากหรือไม่
หากท่านเกิดคำถามว่าแล้วท่านสามารถทำตัวตัวเองยากหรือไม่นั้น ทางเราก็ขอตอบว่าไม่ยาก แต่จะทำให้อร่อยจากต้นตำรับนั้นก็มีความยากอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงทางเราก็เอาสูตรที่ท่านสามารถทำเองได้มาฝาก แต่ถ้าให้ทางเราแนะนำซื้อกินอร่อยกว่า ง่าย ๆ กว่า และดีกว่า
เมนูของหวานไทยชนิดนี้ตามร้านแต่ละร้านก็จะมีเคล็ดลับ กระบวนการทำ กรรมวิธีที่แตกต่างกันออกไป ไข่ที่ใช้ น้ำตาลที่ผสม ก็จะแตกต่างออกไปเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าส่วนผสมชนิดนี้จะไม่ได้มีเยอะอะไรมากมาย แต่การลงมือทำขนมไทยชนิดนี้ให้อร่อยได้ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างมากนั้นเอง
วัตถุดิบและส่วนผสม
1. ไข่เป็ด 4 ฟอง
2.หัวกะทิ 130 มิลลิลิตร
3.น้ำตาลมะพร้าว 130 กรัม
4.ใบเตยสด 5 ใบ
แป้งข้าวเจ้า 30 กรัม
วิธีทำ
วิธีที่ 1. ทำการตอกไข่ใส่กะละมังใบกว้าง ๆ หน่อย จากนั้นทำการใส่น้ำตาลมะพร้าวตามลงไป แล้วจึงทำการมัดใบเตยลงไปขยำกับไข่และน้ำตาลจนกว่าเนื้อไข่จะฟูขึ้น
วิธีที่ 2. นำแป้งข้าวเจ้าเทลงไปในกะทิแล้วคนให้แป้งละลาย จากนั้นจึงค่อย ๆ เทกะทิใส่ลงไปในไข่ คนจนเข้ากันอีกครั้ง
วิธีที่ 3. ทำการกรองเนื้อขนมด้วยกระชอน
วิธีที่ 4. เทขนมใส่ในภาชนะแบบที่ต้องการ แล้วนำไปนึ่งในซึ้งด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 20-30 นาทีหรือจนกว่าสังขยาจะสุก
![](https://fooddaying.com/wp-content/uploads/2023/05/สังขยาไข่-kopi-de-phuket-4.jpg)
สังขยาไข่ kopi de phuket อร่อยเด็ดอย่างไร
สังขยาไข่ หอมอร่อย รสชาติเหมือนที่เคยกินตอนเด็กๆ จะมีร้านขายปาท่องโก๋เค้ามีสังขยารสชาติประมาณนี้เลย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว นึกถึงอดีต น่าทานสีสวย อร่อย ไม่หวานจนเลี่ยน และไม่ออกไข่จนคาว สังขยา ของเรา หอม อร่อย เข้มข้น หวานมัน
เพราะทำแบบโบราณ ไม่ผสมแป้ง ขายมานานกว่า 20 ปี สำหรับคนทานหวานน้อยมาก ๆ สามารถตักสังขยาใส่ถ้วยในปริมาณที่ต้องการ แล้วเติมนมสด ลงไปผสม ปรับความหวานได้ตามชอบ ไม่ทำให้เสียความหอมและรสชาติแต่อย่างใด รับรองได้ว่าปราศจากสารพิษใด ๆ เลย
วิธีรับประทาน ทานกับขนมปังปิ้ง หรือ ปาท่องโก๋ ก็อร่อย ทานกับโรตี ก็เยี่ยม เอาไปทำไส้ ขนมโตเกียว ได้สบาย เอาไปทำ KayaToast แบบสิงค์โปร์ ก็ฟิน บรรจุกระปุกแก้วถูกสุขลักษณะ ด้วยระบบสเตอริไรซ์ เก็บได้ 6 เดือน
![](https://fooddaying.com/wp-content/uploads/2023/05/สังขยาไข่-kopi-de-phuket-5.jpg)
สังขยาไข่ kopi de phuket อร่อยเข้มจ้น หวานมันไม่เหมือนใคร
ร้านโกปี๊ เดอ ภูเก็ต ได้รับรางวัล สุดยอด เอสเอ็มอี แห่งชาติ ประเทศไทย ของภาคใต้ ด้วยนะ ทั้งนี้ก็เกิดจากการตัดสินของคณะกรรมการที่มาตรวจ ระบบการทำงาน ความสะอาด มาตรฐานการทำงานของร้าน และพนักงานรวมไปถึงการพิจารณา คำติชม ของคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ข้อมูลในเว็บไซต์และอินเตอร์เน็ต
และทางร้านได้กล่าวไว้ว่าการได้รางวัลในครั้งนี้นับ เป็นความภาคภูมิใจและเป็นกำลังใจให้น้องๆ พนักงานทุกคนทำงานกันอย่างมีเป้าหมาย ขอบคุณมาก ๆ และหวังว่า คุณลูกค้าทุกคนจะยังคงให้ความอุปการะคุณ อุดหนุนร้านของเราตราบนานเท่านาน เราทุกคนจะช่วยกันรักษามาตรฐานอาหารและปรับปรุงบริการของเราให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไป
เอาเป็นว่าทางเราขอแนะนำของฝากเอาใจสายหวานกันอีกอย่างหนึ่งคือ สังขยาไข่สูตรภูเก็ตดั้งเดิม จากร้านดังอย่าง kopi de phuket โกปี๊ เดอ ภูเก็ต เป็นสังขยาไข่สูตรต้นตำรับโบราณของภูเก็ต ที่ทางร้านทำขายมานานกว่า 20 ปี โดยสังขยาไข่ภูเก็ต ทำจากไข่ไก่และน้ำกะทิ ไม่ผสมแป้ง ทำด้วยกรรมวิธีโบราณ นึ่งด้วยเตาถ่าน ทำให้มีกลิ่นหอมและหวานมัน
ซึ่งใครที่ได้กินเป็นต้องนึกย้อนถึงรสชาติของขนมสังขยาที่เคยกินกันในวัยเด็กอย่างแน่นอน เพราะสังขยาไข่นี้ยังคงให้รสชาติเหมือนเดิมนั่นเอง เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่หรือเพื่อน ๆ ที่ชอบกินของหวานเป็นอย่างมาก
จุดเด่นของ สังขยาไข่ภูเก็ตดั้งเดิม แท้100% ไม่ผสมแป้ง
สังขยาไข่เป็นสูตรภูเก็ตดั้งเดิม มีวิธีการทำแบบโบราณที่ไม่ผสมแป้ง ซึ่งทำให้มีความหอม อร่อย เข้มข้น และหวานมัน ไม่เหมือนใคร
สังขยาไข่มีส่วนผสมของไข่ ที่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี จึงเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
สังขยาไข่สามารถนำไปปรับทานกับขนมได้หลากหลายเช่น ทำไส้ ขนมโตเกียว หรือจะปรับทำเป็น KayaToast แบบสิงค์โปร์ก็ได้
ข้อเสียของ สังขยาไข่ภูเก็ตดั้งเดิม แท้100% ไม่ผสมแป้ง
สังขยาไข่ หลังเปิดกระปุกต้องเก็บไว้ในตู้เย็น ถ้าวางไว้อุณหภูมิปกติอาจเสียได้ง่าย