เมนู
หมวดหมู่

เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ของฝากจากเชียงราย

เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ผลไม้ที่กำลังเป็นที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่ชื่นชอบของทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย เนื้อนุ่ม หวานฉ่ำและมีกลิ่นหอม โดยเฉพาะเมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ที่มีลายตาข่ายสวยงาม เป็นที่นิยมบริโภคกันอย่างมากในปัจจุบัน นั่นก็คือ เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ซึ่งถือเป็นของฝากขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่างของจังหวัดเชียงราย ที่ใครๆก็ต้องหิ้วติดมือมาด้วยตลอด ๆ ซึ่งทางเรา foodpaying ก็ไม่รอช้าที่จะพาคุณไปทำความรู้จักกับผลไม้แสนอร่อยนี้ให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon แหล่งรวบรวม เมล่อนของฝากจากเชียงราย

เมล่อน เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมบริโภคกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีรสชาติดี เนื้อนุ่ม หวานฉ่ำและมีกลิ่นหอม นอกจากนั้นเมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์หนักที่มีลายตาข่ายสวยงามยังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก อาทิพันธุ์ คิโมจิ คูนามิ และ โมมิจิ

อีกทั้งสีของเนื้อผลยังมีหลากหลาย ทั้งขาว ครีม เหลือง เขียว ส้มและแสด ที่ชวนให้น่ารับประทานมายิ่งขึ้น จัดเป็นทั้งผลไม้และผัก ขึ้นกับลักษณะของการนำไปใช้บริโภค ซึ่งมีทั้งใช้บริโภคสดในรูปผลไม้ หรือใช้เป็นส่วนประกอบในสลัดผัก เป็นเครื่องเคียงในอาหารหากหลายจาน เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อยและรูปลักษณ์ที่สวยงาม นอกจากนี้ยังใช้ประกอบของหวานและเครื่องดื่มหลายชนิด อาทิเช่น ฟรุ๊ตสลัด ไอศกรีม น้ำแข็งไส และน้ำผลไม้ปั่น เป็นต้น

สิงห์ปาร์ค เชียงรายถือเป็นแหล่งรวบรวมเมล่อนญี่ปุ่น Japanese Melon ที่สดอร่อย แหล่งใหญ่ของเชียงราย รวมถึง  เมล่อน คิโมจิ สายพันธุ์ญี่ปุ่นที่ข้างในเนื้อสีเขียว เนื้อหวานฉ่ำ เมล่อนญี่ป่น ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค ของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นไร่ดีเด่นภาคเหนือด้วย ถ้ามาที่ไร่บุญรอดแล้วต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมไร่ก่อน คนละ 50 บาท แล้วจะมีรถนำเที่ยวพาไปเที่ยว หนึ่งในนั้นคือ ไร่เมล่อนญี่ปุ่น เรียกได้ว่า ได้เที่ยวชมสวนด้วย ได้อิ่มท้อง

แถมยังได้ของฝากจากเชียงรายไปฝากเพื่อนๆ อีกด้วย โดยเมล่อนญี่ป่น ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค ถูกปลูกและดูแลภายในโรงเรือนกระจกเป็นอย่างดี เพื่อควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญของเมล่อน ควบคุมการให้น้ำและปุ๋ยผ่านระบบน้ำหยด  เพราะ เมล่อน ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ดินต้องใช้ดินที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี เพื่อส่งเสริมให้ เมล่อน ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ จึงจำเป็นต้องพึ่งพาขั้นตอนและการดูแลเพาะปลูกที่ถูกต้องและพิเศษ

ทั้งนี้เพื่อให้ เมล่อน ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค สามารถเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์มากที่สุด โดยเมล่อนที่คุณภาพดี นั้นสามารถดูเบื้องต้นได้จากภายนอกโดยสังเกตที่ลายตาข่ายของเมล่อนจะชัด เมล่อนที่มีคุณภาพดีจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายของเรา ซึ่งนอกจากสิงห์ปาร์ค เชียงรายแล้ว เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ยังสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีเมล่อนฟาร์มมากมาย และหลากหลายให้คุณได้เลือกสรรสำหรับผู้ที่เดินทางไปยังจังหวัดเชียงราย และยังสามารถสั่งซื้อแบบออนไลน์แบบง่ายๆโดยไม่ต้องไปถึงสวนกับเรา foodpayingshop ง่ายๆได้เลยจ้า

คิโมจิเป็นเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์อย่างเหมาะสม

คิโมจิเป็นเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์และผลิตเมล็ด F1 จากประเทศญี่ปุ่น และ ยังได้รับการพัฒนาและทดสอบสายพันธุ์ในประเทศไทยเพื่อให้สายพันธุ์มีความแข็งแรงทนทานต่อโรค เหมาะแก่สภาพอากาศในประเทศไทย

ลักษณะของคิโมจิเป็นเมล่อนตาข่าย หรือ (Musk Melon) พันธุ์หนักอายุการปลูก 90 วัน ที่มีทรงกลม ขั้วแข็งแรง ลวดลายเข้มเด่นชัด เป็นลักษณะเด่นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ไม่เหมือนใคร

เนื้อของคิโมจินั้นมีความหวาน กึ่งนุ่มกึ่งกรอบ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมติดปาก เมื่อได้รับประทานแล้วจะรู้สึกสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นลูกใหญ่หรือลูกเล็กให้ผลที่มีเนื้อแน่นเนียนเป็นเอกลักษณ์

เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ความเป็นมาของเมล่อนในประเทศไทย

เมล่อน เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในต่างประเทศ ในแถบทวีปแอฟริกา นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยนานแล้ว เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์แตง และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis melo L.

สำหรับพันธุ์เมล่อนที่มีปลูกในประเทศไทยและวางจำหน่ายในท้องตลาด ต้องเป็นพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมเข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศไทยได้ สำหรับพันธุ์ คิโมจิ คูนามิ และโมมิจิ นั้นได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์มาอย่างยาวนานกว่า 3 ชั่วอายุคนในประเทศญี่ปุ่น และปรับปรุงเพื่อให้ปลูกในประเทศไทยมามากว่า 10 ปี ทำให้เมล่อนญี่ปุ่น คิโมจิ คูนามิ และโมมิจิ สามารถปลูกได้อย่างดีทั่วทุกภูมิภาคของไทย

เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

รากเมล่อนญี่ปุ่น

ราก เป็นระบบรากแก้ว มีรากแขนง และรากฝอยแตกออกห่างๆ ระบบความลึกของรากประมาณ 30 เซนติเมตร

ลำต้นเมล่อนญี่ปุ่น

แคนตาลูป/เมล่อน เป็นพืชเถาเลื้อยตาดินหรือตามกิ่งไม้ ลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อน มีลักษณะกลม ความยาวประมาณ 2-3 เมตร ลำต้นมีหนามคล้ายขน ช่วงข้อมีความยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร บริเวณข้อแตกกิ่งย่อยออก และบริเวณข้อย่อยจะแตกใบ และดอก ส่วนซอกใบจะแตกหนวดสำหรับยึดเกาะขณะเจริญเติบโต

ใบเมล่อนญี่ปุ่น

ใบแคนตาลูป/เมล่อน มีลักษณะคล้ายใบแตงหรือฟักทอง แตกออกบริเวณข้อกิ่ง ข้อละ 1 ใบ เรียงสลับกัน ก้านใบกลวง ยาว 5-10 เซนติเมตร มีขน บริเวณฐานใบเว้า ขอบใบหยักเป็นคลื่น ผิวใบขรุขระ ใบอ่อนมีขนที่ริมขอบใบ และใต้ใบ เมื่อใบมีอายุมากขนที่ใต้ใบจะน้อยลง

ดอกเมล่อนญี่ปุ่น

ดอกแคนตาลูป/เมล่อน มีทั้งดอกแบบเพศผู้ ดอกเพศเมีย และดอกสมบูรณ์เพศบนต้นเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่มักพบแบบมีดอกเพศผู้ และดอกสมบูรณ์เพศ ซึ่งดอกเพศผู้แทงออกที่ซอกใบบริเวณแขนงย่อยเกือบทุกแขนง ดอกจะมีสีเหลืองคล้ายดอกแตงกวา โดยดอกเพศผู้มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ อับละอองเกสร 3 อับ และก้านชูเกสรสั้น ส่วนดอกเพศเมีย และดอกสมบูรณ์เพศจะแทงออกที่แขนงย่อยข้อแรก ดอกสมบูรณ์เพศมีกลีบเลี้ยงสีเขียว ส่วนกลีบดอกมีสีเหลือง 5 กลีบ อับละอองเกสรตัวผู้ 3 อับ ล้อมรอบเกสรตัวเมียที่มี 3-5 แฉก ส่วนรังไข่มีลักษณะกลม ยาว 2-4 เซนติเมตร มี 3-5 ห้อง และฐานดอกสมบูรณ์เพศมีรังไข่ที่เจริญเป็นผล

ผลเมล่อนญี่ปุ่น

ผลแคนตาลูป/เมล่อน พัฒนามาจากรังไข่จากดอกที่เกิดอยู่บนแขนงย่อย ผลมีลักษณะแตกต่างกันตามสายพันธุ์ บางพันธุ์มีร่างแหปกคลุม บางพันธุ์ผิวเรียบไม่มีร่างแห บางพันธุ์มีร่องเป็นทางยาวจากขั้วผลถึงท้ายผล ลักษณะผลทุกสายพันธุ์ค่อนข้างกลมรี ผลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10-15 เซนติเมตร หนักประมาณ 0.5-2 กิโลกรัม มีสีผิวเปลือก และสีเนื้อแตกต่างกันตามสายพันธุ์ เนื้ออาจมีสีเหลือง สีเหลืองอมเขียว และสีส้ม ส่วนเมล็ดมีสีน้ำตาลเหลือง

เมล่อนกับลักษณะภูมิอากาศที่เหมาะสม

เมล่อน เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบร้อนของทวีปแอฟริกา จึงไม่ชอบอากาศหนาวเย็นจัด แต่ชอบอากาศอบอุ่น แต่ไม่ร้อนจัด อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการปลูกแตงอยู่ที่ 25- 35 องศา แต่ไม่เกิน 43 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน และ 18-20 องศาเซลเซียส ในเวลากลางคืน ดังนั้นฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกเมล่อนในประเทศไทยจึงเป็นปลายฤดูฝนหรือฤดูฝนหนาว สำหรับฤดูการอื่นๆ นั้นเราก็สามารถปลูกเมล่อนญี่ปุ่นได้เช่นกัน แต่จะต้องดูแลมากกว่าปกติซักเล็กน้อย

หากเมล่อนเจอกับอากาศหนาวเย็นจะทำให้ชะงักการเจริญเติบโตได้ตั้งแต่ระยะต้นกล้า การออกดอกติดผลจะล่าช้า และถ้าอากาศยิ่งหนาวจัด ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ต้นเมล่อนอาจจะหยุดการเจริญเติบโตได้ ในทางกลับกันต้นเมล่อนก็ไม่ชอบอากาศที่ร้อนจัดจนเกินไป ถ้าอุณหภูมิเกินกว่า 40-43 องศาเซลเซียส เมล่อนมักจะสร้างแต่ดอกตัวผู้ ไม่มีดอกตัวเมีย หรือถ้ามีดอกตัวเมียก็จะร่วงง่ายไม่ติดผล ปัญหาจากสภาพแวดล้อมของอากาศที่สำคัญสำหรับการปลูกเมล่อนอีกประการหนึ่งคือฝน

ถ้าต้นเมล่อนถูกน้ำฝนบ่อย หรือสภาพในโรงเรือนมีความชื้นสูง อาจทำให้เกิดโรคราน้ำค้างได้ เนื่องจากเมล่อนเป็นพืชที่มีใบกว้าง ใหญ่และมีขน เมื่อสัมผัสกับน้ำฝนจะเกิดหยดน้ำค้างบนใบอยู่เสมอ แห้งยาก จึงเป็นสภาพที่อำนวยให้เกิดการเข้าทำลายของเชื้อราน้ำค้างบนใบได้ร่วมกับสภาพอากาศที่เย็นและชื้นหลังฝนตก โรคนี้จึงระบาดมากในฤดูฝน เป็นโรคสำคัญที่ทำความเสียหายมากสำหรับพืชในวงศ์แตง จึงต้องดูแลควบคลุมมิให้เกิดการระบาดตั้งแต่เนิ่น ๆ และหากสามารถควบคุมได้ ทั้งโรคจากเชื้อรา และจากแมลงต่างๆ โดยการวางแผนการปลูก (เว้นระยะห่างให้มากกว่าฤดูอื่นๆ) และการมีวินัยในการป้องกันที่ดีแล้วก็จะสามารถสร้างผลผลิตได้ไม่ต่างจากฤดูกาลอื่นๆ

เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ขนม

ประโยชน์ของเมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon

  1. มีโซเดียมและแคลอรี่ต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  2. มีวิตามินซี วิตามินเอ มีประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย
  3. มีวิตามินบี ช่วยป้องกันผมร่วง
  4. มีวิตามินเอ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ช่วยในการมองเห็น โดยเฉพาะการมองเห็นในที่มืด
  5. มีคอลลาเจน ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี มีความชุ่มชื้น
  6. มีโพแทสเซียม ช่วยในการรักษาสมดุลระหว่างเซลล์ และของเหลวในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงระบบประสาท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. มีเบต้าแคโรทีน เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเบต้าแคโรทีน จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ที่มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ช่วยต่อตานอนุมูลอิสระ ที่ทำคอยร้ายเซล์ต่างๆ ในร่างกาย
  8. มีแคลเซียม ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็ง ป้องกันการสึกหรอได้ง่าย โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีอายุมาก
เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์ KIMOJI Melon ประโยชน์